วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย


ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย

   ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยา ณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2536 มีช้างในความดูแลมากกว่า 50 เชือก ตั้งอยู่ระหว่าง กม. 28-29 ถนน ลำปาง-เชียงใหม่ อำเภอ ห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม ยังเป็นผู้บุกเบิกงานด้านการอนุรักษ์ช้างและการทดลองทางด้านวิทยาศาสตร์ และนับเป็นความภาคภูมิใจของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยที่ได้รับความไว้วางใจให้ เป็นสถานที่ดูแลช้างต้นหรือช้างสำคัญของพระมหากษัตริย์ถึง 6 ช้างในพื้นที่ของโรงช้างต้น  เนื่องจากศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเป็นปางช้างแห่งเดียวในประเทศไทยที่ เป็นของรัฐบาล การเดินทางมาเยี่ยมช้างจึงเป็นสิ่งที่ง่าย และ มีค่าใช้จ่ายไม่มาก โดยมีค่าบัตรผ่านประตูเพียง 100 บาทสำหรับผู้ใหญ่คนไทย และ 50 บาทสำหรับเด็ก เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับครอบครัวหรือนักเรียน ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายโดยแบ่งออกเป็น แบบที่หนึ่ง เที่ยวในหนึ่งวัน ได้แก่ การแสดงช้างช้างอาบน้ำ การแสดงช้าง เยี่ยมชมลูกช้าง และบริการนั่งช้างชมธรรมชาติ แบบที่สองเที่ยวแบบค้างคืน ได้แก่ โปรแกรมฝึกเป็นควาญช้างสมัครเล่นและโปรแกรมเดินป่า            ด้านการอนุรักษ์ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยได้ก่อตั้งโรงพยาบาลช้างและโครงการสัตวแพทย์สัญจรซึ่ง ถือว่า เป็นแห่งแรกของประเทศไทยโดยทำการรักษาช้างเอกชนทุกเชือกโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ใดๆ
     นอกจากนั้นศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยยังได้ทำการวิจัยเรื่องของการขยาย พันธุ์ช้างและการผสมเทียมช้าง รวมถึงการศึกษาวิจัยการทำงานของระบบกล้ามเนื้อของช้าง
บุกเบิกงานด้านศิลปะ
                   ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยถือว่าเป็นผู้บุกเบิกงานทางด้านศิลปะของช้าง ซึ่งเป็นสถานที่แห่งแรกในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในการฝึกช้างให้วาดภาพ เป็นแห่งแรก และยังเป็นสถานที่ก่อตั้งวงดนตรีช้างแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก

                    ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยภายใต้การดำเนินงานโดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลไทย และยังเป็นศูนย์รวมความรู้เรื่องช้างและผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับช้างโดยได้ร่วมมือกับองค์กรอื่นๆของรัฐและเอกชน ในการช่วยเหลือช้างของประเทศมากกว่า 2,700 เชือก


       ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งเกวียน ต.เวียงตาล อยู่ในความดูแลของฝ่ายอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือ  องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) แต่เดิม ออป. เป็นศูนย์ฝึกลูกช้างซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เป็นสถานที่เลี้ยงและฝึกลูกช้างเพื่อให้เชื่อฟังคำสั่งและมีความชำนาญในการทำไม้ขณะที่แม่ช้างไปทำงานในป่า และเนื่องจากมีนโยบายปิดป่าซึ่งทำให้ช้างต้องว่างงาน ศูนย์ฝึกลูกช้างจึงถูกปรับมาเป็นสถานที่ดูแลช้างแก่และเจ็บป่วย และที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลช้างด้วย ออป.จึงได้ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยขึ้นเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 และจัดกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยว ได้แก่




              การแสดงของช้าง ซึ่งยังคงอนุรักษ์ศิลปะการทำไม้ซึ่งใช้ช้างเป็นพาหนะ และแรงงานที่สำคัญ ในการชักลากไม้ที่ได้จัดแสดงให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศได้ชม เวลาในการแสดง 
       วันจันทร์ - ศุกร์ มีการแสดง 2 รอบ ในเวลา 10.00 น . และ 11.00 น .
       วันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดต่างๆ จะเพิ่มรอบการแสดงในเวลา 13.30 น .




       นั่งช้างรอบบริเวณซึ่งเป็นสวนป่า ธรรมชาติยังมีสิ่งดีๆ ที่คอยให้กำลังใจกับเราทุกเมื่อ บางครั้งเราอาจจะสับสนวุ่นวาย เครียดหนักกับการทำงานทั้งวัน ทั้งสัปดาห์ลองหลบความวุ้นวายเหล่านั้น ไปท่องเที่ยวกับธรรมชาติ โดยเฉาะกับการขี่ช้างชมธรรมชาติ ท่านจะรู้สึกถึงความแปลกใหม่ในชีวิต เป็นรางวัลจากความเหน็ดเหนื่อยที่จะทำให้ท่านลืมงานที่ออฟฟิศไปอีกหลายวันเชียวแหละ การนั่งช้างให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00 - 15.30 น .



                  การแสดงของลูกช้างทุกวันวันละ 3 รอบคือ 09.30 น., 11.00 น. และ14.00 น.
            ช้างแท็กซี่ หรือบริการนั่งช้างชมธรรมชาติรอบๆ ศูนย์ฯ มีทุกวัน เวลา 08.00-15.30
        โฮมสเตย์ (Homestay) ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิตที่ผูกพันระหว่างช้างกับคนเลี้ยงช้างอย่างใกล้ชิด บริการอาหารเครื่องดื่มและร้านขายของที่ระลึก ค่าเข้าชมสำหรับ ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการได้หลายเส้นทาง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 
โทร. 054-247871-6


           ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Awards) ประเภทรางวัลดีเด่นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พ.ศ.2541 ปัจจุบันศูนย์ฯมีโครงการ โรงเรียนฝึกควาญช้าง เพื่อฝึกควาญหรือผู้ที่ประสงค์จะเป็นควาญให้สามารถดูแลช้างได้อย่างถูกต้อง มีชาวต่างชาติให้ความสนใจมาสมัครเป็นนักเรียนหลายคน นอกจากเรื่องท่องเที่ยวแล้วยังมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ พลังงานที่ใช้ภายในศูนย์ฯ มาจากพลังงานทดแทนในโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ มีก๊าซชีวภาพจากมูลช้างใช้ในการหุงต้ม และกระแสไฟฟ้าผลิตจากเซลล์แสงอาทิตย์






           สวนป่าทุ่งเกวียน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวลำปาง มีป่าสนเมืองหนาวและพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งไม้ดอก ไม้ใบที่มีสีสันสวยงาม อีกทั้งไม้จำพวกตะบองเพชร และปาล์ม ตลอดจนพืชสมุนไพรต่างๆ ช่วงที่สวยที่สุดเหมาะแก่การพักแรมคือเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกบัวตองกำลังบาน เนื่องจากจังหวัดลำปางมีพื้นที่เป็นแอ่งกระทะจึงมีอากาศที่ร้อนกว่าแม่ฮ่องสอน ดอกบัวตองที่ลำปางจึงบานเร็วกว่าที่ดอยแม่อูคอประมาณ 15 วัน 
ประมาณเดือนตุลาคมมีการจัดกิจกรรมทุ่งเกวียนเมาเท่นไบต์ และเดือนธันวาคมของทุกปี จะมีการจัดงาน ดอกไม้บานวันพบช้าง
 

ที่มาของข้อมูล : http://www.yourhealthyguide.com/travel/tn-thailandelephant.htm








วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ออกแบบบ้าน





งานชิ้นที่ 5 ออกแบบบ้าน


         
ภาพการออกแบบบ้านด้วยโปรแกรม GoogleSketchUp8
ชื่อผลงาน Galaxy Home ”
จัดทำโดย เด็กหญิง อุ้มบุญ   อินยาศรี ห้อง ม.1/1 เลขที่ 46

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

สบู่มะขามเปียก



โครงงานสบู่จากมะขามเปียก

บทนำ

            ที่มาและความสำคัญ  สบู่ เป็นเครื่องสำอางชนิดหนึ่งที่ใช้ในการทำความสะอาดร่างกาย กระบวนการผลิตสบู่มีการเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อให้สบู่มีสรรพคุณตรงตามความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น เช่น มีสีสันที่สวยงามน่าใช้ มีกลิ่นหอม และมีสรรพคุณทางยา  ในทางการค้ามีการใช้สารสังเคราะห์เพิ่มขึ้นทำให้ผลิตภัณฑ์น่าใช้ บรรจุภัณฑ์สวยงามแต่แฝงไปด้วยสารเคมีที่เป็นอันตราย มีพิษตกค้างและราคาสูง ปัจจุบันมีสบู่มากมายหลายชนิดให้ได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมและความชอบของแต่ละบุคคล  แต่จะมีใครทราบหรือไม่ว่าสบู่ส่วนใหญ่ที่ใช้กันอยู่ล้วนแล้วแต่มีส่วนผสมที่เป็นพิษของสารซักฟอกและสารเคมีและเศษที่หลงเหลือในอุตสาหกรรมจากการกลั่นน้ำมันและปิโตรเลียมเคมีรวมถึงวัตถุกันเสีย ซึ่งสารเหล่านี้ล้วนส่งผลร้ายต่อสัตว์และคนและที่มากกว่านั้นคือผิวสามารถดูดซึมของเสียเหล่านี้ได้ถึง 60%
        คณะผู้จัดทำจึงได้มีแนวคิดในการนำพืชสมุนไพรที่มีอยู่ในธรรมชาติมาเป็นส่วนผสมเพิ่มเติมในสบู่ แทนการใช้สารเคมีสังเคราะห์ พืชสมุนไพรที่ใช้มีสาระสำคัญและมีสรรพคุณทางยา เช่น มีน้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นเฉพาะใช้ในการบำบัดโรค มีสีสันสวยงาม หาง่าย   ราคาถูก ประหยัด ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์ และไม่มีพิษตกค้าง ทำให้สบู่สมุนไพรที่ผลิตขึ้นจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติมีคุณลักษณะเฉพาะที่หลากหลาย จึงเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของสบู่สมุนไพรที่มีคุณค่ายิ่งของภูมิปัญญาไทย
        จากการศึกษาสรรพคุณของมะขามเปียกพบว่ามะขามเปียก เป็นสมุนไพรคู่ครัวไทยที่มีสรรพคุณเป็นกรด มี AHA ในปริมาณที่สามารถใช้ขัดผิวหน้า ผิวตัว หรือแม้กระทั่งจุดแห้งกร้าน ให้เนียนนุ่ม  ขจัดกลิ่นตัวและไม่มีผลข้างเคียงใดๆต่อผิว ดังนั้นคณะผู้จัดทำจึงมีความสนใจที่จะนำมะขามเปียกมาทำเป็นสบู่สมุนไพรมะขามเปียก

วัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาอัตราส่วนของมะขามเปียกต่อสบู่ที่ใช้ในการทำสบู่สมุนไพรมะขามเปียกแล้วทำให้ผู้ใช้มีผิว
เนียนนุ่ม  ไม่มีกลิ่นตัว และไม่เกิดการแพ้
     ขอบเขตของการศึกษา
ระยะเวลาที่ทำการศึกษา เดือน มิถุนายน-กันยายน  พ.ศ. 2557
     สมมติฐาน
เมื่อเพิ่มปริมาณมะขามเปียกในการทำสบู่จะทำผู้ใช้มีผิวเนียนนุ่ม ไม่มีกลิ่นตัว และไม่เกิดการแพ้  ผิวสะอาดขึ้น

     ตัวแปร
ตัวแปรต้น          ปริมาณมะขามเปียกที่ใช้ในการทำสบู่
ตัวแปรตาม         ความเนียนนุ่มของผิว  ไม่มีกลิ่นตัว และไม่เกิดการแพ้

ตัวแปรควบคุม     ปริมาณสบู่ที่ใช้ในการทำสบู่สมุนไพรมะขามเปียก จำนวนครั้งที่ผู้ใช้ทดลองใช้  เพศของผู้                          ทดลองใช้ อายุของผู้ทดลองใช้

     นิยามเชิงปฏิบัติการ
        ความสะอาดของผิวกาย  สบู่สมุนไพรจากมะขามธรรมชาติที่ทำขึ้น ทำมาจากมะขามที่ได้จากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน ก็เพื่อที่จะไม่ให้มีสารพิษตกค้างในร่างกาย  โดยสบู่ที่ได้มานั้นจะไม่มีสารพิษหรือสารเคมีใดๆที่จะตกค้างภายในร่างกายของเรา เมื่อเรานำสบู่ที่ทำมาใช้ เพราะส่วนผสมที่นำมาทำนั้น  ล้วนแล้วแต่ทำมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น  เพื่อให้ได้สบู่สมุนไพรตามความต้องการของผู้ใช้โดยที่ปราศจากสารเคมีต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในระยะยาว     ผิวหนังของคนเราต่างกันเราจึงเลือกใช้สบู่ที่ต่างชนิด ดังนั้น  เราจึงสามารถทำเองได้ สมุนไพรที่ใช้ก็หาได้ง่ายในท้องถิ่นราคาไม่แพงและยังให้ประโยชน์ต่อผิวเราได้ดีอีกด้วย การทำความสะอาดร่างกายหรือผิวกายให้สะอาดเป็นเรื่องที่ทำได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ เท่าทุกวันนี้ เพราะสิ่งสกปรกและคราบมันต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่อาจรวมตัวกับน้ำได้ สังเกตง่าย ๆ เมื่อเราเทน้ำผสมน้ำมัน มันจะแยกชั้นกันอย่างชัดเจน ร่างกายของเรานั้น มักจะผลิตน้ำมันออกมาตลอดเวลา การอาบน้ำธรรมดา ก็เป็นเพียงการชะล้างฝุ่นออกไปจากร่างกาย แต่ก็ไม่ได้สะอาดหมดจดจริงอยู่ที่ว่าจะสะอาดมากหรือน้อย สบู่บางชนิดมีการระคายเคืองในบางคน และการสะสมสารเคมี ไว้ที่ผิวกาย ทุกวัน ๆ มาจนถึงวันนี้ เราก็ไม่รู้ว่าสะสมมามาก-น้อยเท่าไหร่ สบู่ที่ดีจะต้องมีส่วนประกอบสำคัญที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อผิว ซึ่งนอกจากจะทำให้สบู่ที่ได้ทำความสะอาดผิวได้ดีแล้ว ยังสามารถบำรุงผิวได้อีกด้วย สบู่เป็นสิ่งที่เราต้องใช้เป็นประจำทุกวัน เราก็ต้องการสบู่ที่มีคุณภาพและปลอดภัย

อุปกรณ์และวิธีดำเนินการ
การดำเนินการจัดทำโครงงานในครั้งนี้ คณะผู้จัดทำได้ดำเนินการดังนี้
3.1   วัสดุ-อุปกรณ์และสารเคมี
1.       เนื้อสบู่           
2.       น้ำธรรมดา 
3.       น้ำหอม  
4.       มะขามเปียก
5.       น้ำผึ้ง 
6.       หม้อและเตาสำหรับต้มสบู่
7.       พิมพ์รูปแบบต่าง ๆ ใช้พิมพ์ทำขนมก็ได้

1.2             วิธีดำเนินการ
3.2.1   วิธีการทำสบู่มะขามเปียก
การเตรียมน้ำมะขามเปียกและสบู่ที่ใช้ในการทำสบู่สมุนไพรมะขามเปียก
1.นำมะขามเปียก 3 ขีด แกะเอาเมล็ดและเส้นใยออกให้หมด นำไปแช่และคั้นในน้ำปริมาตร 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร 



2.นำเนื้อสบู่ที่เป็นชิ้นเล็กๆ  (อาจใช้เนื้อสบู่ที่เป็นแท่งมาขูดกับที่ขูดมะละกอหรือจะใช้มีดหั่นก็ได้)  จำนวน 3 ขีด



3.นำสบู่  3 ขีด   มะขามเปียกจำนวน 100  ลูกบาศก์เซนติเมตร และน้ำ 500  ลูกบาศก์เซนติเมตร ใส่หม้อ






4.เอาส่วนผสมใส่หม้อตั้งไฟอ่อน ๆ กวนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ปิดไฟ ยกลงจากเตา



5.ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ตามชอบ ใช้น้ำมันมะกอกทาพิมพ์นิดหน่อยเพื่อให้แคะสบู่ออกจากพิมพ์ได้ง่าย




6.พักสบู่ที่ได้ให้เนื้อสบู่แข็งตัว แคะออกจากพิมพ์ จะได้สบู่จากมะขามเปียกตามต้องการ

7.ทำซ้ำข้อ 1-5 แต่เปลี่ยนปริมาณน้ำมะเปียกเป็น200 ลูกบาศก์เซนติเมตร ตามลำดับ 


สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
       
      จากการทดลองครั้งนี้พบว่า สบู่มะขามเปียกทั้งสองแบบ สามารถทำให้ผิวเนียนนุ่มและสะอาดในปริมาณที่ต่างกัน โดยสังเกตผลของการเปรียบเทียบการทดลองระหว่างการใช้สบู่ทั้งสองแบบ   โดยสบู่แบบที่  ทำให้ผิวเนียนนุ่มไม่มากนัก  ทำให้ผิวสะอาดพอสมควร  สบู่แบบที่ 2 ทำให้ผิวเนียนนุ่มมากขึ้น  สะอาดมากขึ้นกว่าสบู่แบบที่ 1 สรุปได้ว่าการทดลองดังกล่าวสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้คือ เมื่อเพิ่มปริมาณมะขามเปียกในการทำสบู่จะทำผู้ใช้มีผิวเนียนนุ่ม ไม่มีกลิ่นตัว และไม่เกิดการแพ้  ผิวสะอาดขึ้น

ประโยชน์
1.สามารถลดปริมาณค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้โดยการทำสบู่ขึ้นเอง
2.เป็นการนำสมุนไพรที่มีในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์
สูงสุด
 3.สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
4.ได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นจากการศึกษาค้นคว้าและทดลอง ในครั้งนี้

ปัญหา
1.ถ้าใส่น้ำเยอะเกินไปทำให้สบู่เละ  ไม่แข็งตัว

ข้อเสนอแนะ
1. ควรหาข้อมูล และทำการทดลองในรูปแบบอื่น ๆ  
2.ควรทดลองกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ เช่น ว่านหางจระเข้ ขมิ้นชัน ดอกอัญชัน ฯลฯ


เอกสารอ้างอิง
1.http://frynn.com
2.www.senate.go.th/web-senate/research47/pdf/series1/c35.pdf
3.www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id
4. หนังสือเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ มัธยมศึกษาปีที่ 1

    
    




 



วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557

มะขาม


                                                                       มะขาม

ประโยชน์ของมะขาม มะขาม ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้แก่ร่างกาย ด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสด้วยวิตามินซีจากมะขาม ช่วยในการชะลอวัย และการเกิดริ้วรอยแห่งวัย แคลเซียมจากมะขามจะช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง มะขามมีธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ใช้ในการทำทรีทเม้นท์ ด้วยการจำมาขัดตามซอกขาหนีบ รักแร้ ข้อพับ ซึ่งจะช่วยลดรอยคล้ำลงได้ นำมะขามเปียกไปแช่น้ำ ลอกเอาใยออก นำมามะขามมาถูตัวเบาๆ ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื่นตลอดทั้งวัน และช่วยกำจัดแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย มะขามเปียกและดินสอพองผสมจนเข้ากัน นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับสดใสและสะอาดยิ่งขึ้น มะขามเปียกผสมกับน้ำอุ่นและนมสด ใช้พอกผิว ช่วยให้ผิวหนังที่มีรอยดำคล้ำกลับมาขาวสดใสนุ่มนวลยิ่งขึ้น นำมาใช้เป็นส่วนผสมหรือใช้ทำเป็นกรดผลไม้ (AHA) สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟ หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ ให้นำเนื้อมะขามมาขัดถูฟันเป็นประจำทุกครั้งที่แปรงฟัน จะช่วยขจัดคราบสกปรกบริเวณฟันลงได้ สามารถนำมาใช้ทำยานวดผม ซึ่งช่วยรักษารากผม ฆ่าเชื้อราบนหนังศีรษะ และช่วยฆ่าเหาได้อีกด้วย ด้วยการนำมะขามเปียกมาผสมกับน้ำแล้วใช้มือคั้นเนื้อมะขามเพื่อให้ละลายออกผสมกับน้ำ น้ำที่ได้นั้นจะมีลักษณะเหลว (ไม่ควรเหลวมาก) แล้วนำมานวดศีรษะหลังจากที่สระผมเสร็จแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก ใช้ทำเป็นน้ำยาอาบน้ำ ด้วยการนำใบมะขามมาจำนวนหนึ่ง ใส่ใบมะขามลงในน้ำเดือดแล้วปิดฝา แล้วเคี่ยวประมาณ 30 นาที จากนั้นนำลงจากเตาปล่อยให้เย็นแล้วนำมาอาบ จะช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น รักษาผดผื่นคันตามร่างกายและเชื่อบนผิวหนังได้ การแปรรูปมะขามสามารถนำมาแปรรูปได้หลายชนิด เช่น มะขามแก้ว มะขามกวน มะขามอบไร้เมล็ด มะขามบ๊วย มะขามแช่อิ่ม มะขามคลุก มะขามจี๊ดจ๊าด เป็นต้น ช่วยป้องกันการเกิดและช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน มะขามมีวิตามินเอที่มีส่วนช่วยในการบำรุงและรักษาสายตา ช่วยลดความร้อนในร่างกายได้เป็นอย่างดี แก้อาการท้องผูก ด้วยการใช้เนื้อมะขามเปียกประมาณ 15 ฝัก นำมาจิ้มกับเกลือแล้วรับประทาน หรือใส่เกลือเติมน้ำแล้วคั้นเป็นน้ำดื่ม แก้อาการท้องเดิน ด้วยการใช้เปลือกต้นประมาณ 2 กำมือ นำมาต้มกับน้ำปูนใสหรือน้ำ แล้วนำมารับประทาน ช่วยถ่ายพยาธิตัวกลมในลำไส้ พยาธิไส้เดือน ด้วยการใช้เมล็ดมะขามมาคั่วกระเทาะเปลือกออก นำเนื้อในเมล็ดมาแช่น้ำเกลือจนนิ่ม แล้วรับประทานครั้งละ 20 เม็ด ช่วยแก้อาการขับเสมหะ ละลายเสมหะ ด้วยการนำมะขามเปียกมาจิ้มเกลือ แล้วรับประทาน มะขามอุดมไปด้วยกรดอินทรีย์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยชำระล้างความสกปรกในรูขุมขนและขจัดคราบมันบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี รากมะขามมีส่วนช่วยแก้อาการท้องร่วง รากมะขามช่วยในการสมานแผล รากมะขามช่วยในการรักษาโรคเริม รากมะขามช่วยในการรักษาโรคงูสวั เปลือกลำต้นมะขาม ช่วยแก้ไขตัวร้อน แก่นของต้นมะขาม ช่วยรักษาฝีในมดลูก แก่นของต้นมะขาม ช่วยในการขับโลหิต แก่นมะขามมีส่วนช่วยเป็นยาชักมดลูกให้เข้าอู่ ใบสดมะขาม ใช้เป็นยาถ่าย ยาระบาย ขับลมในลำไส้ ใบสดมะขาม ช่วยรักษาหวัด อาการไอ ใบสดมะขามมีส่วนช่วยในการรักษาโรคบิด ใบสดมะขาม มีคุณสมบัติใช้เป็นยาหยอดตารักษาเยื่อตาอักเสบ แก้อาการตามัว ใบสดมะขาม มีคุณสมบัติในการช่วยฟอกโลหิต ใบสดนำมาต้มผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆใช้อาบหลังคลอด เนื้อหุ้มเมล็ดของมะขาม ใช้เป็นยาสวยล้างท้อง ฝักดิบของมะขาม ใช้ในการฟอกโลหิจ ฝักดิบของมะขามใช้ในการลดความอ้วน เป็นยาระบายลดอุณหภูมิในร่างกาย เปลือกมะขามช่วยรักษาแผลสด แผลไฟลวก แผลเบาหวาน ถอนพิษ เปลือกเมล็ดมะขาม ช่วยสมานแผลที่ช่องปาก คอ ลิ้น และตามร่างกาย ดอกสดของมะขาม ใช้เป็นยาลดความดันโลหิตสูง

© Copyright 2014 Frynn All Right Reserved. | อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://frynn.com/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A1/

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

มะขามเปียก


ข้อมูลพร้อมทั้งรูปภาพเกี่ยวกับสมุนไพร  :
สมุนไพร คือ มะขามเปียก




ลักษณะเฉพาะ
        มะขามเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่แตกกิ่งก้านสาขามากไม่มีหนาม เปลือกต้นขรุขระและหนา สีน้ำตาลอ่อน ใบ เป็นใบประกอบ ใบเล็กออกตามกิ่งก้านใบเป็นคู่ ใบย่อยเป็นรูปขอบขนาน ปลายใบและโคนใบมน ประกอบ ด้วยใบย่อย 10–15 คู่ แต่ละใบย่อยมีขนาดเล็ก กว้าง 2–5  . ยาว 1–2 ซม. ออกรวมกันเป็นช่อยาว 2–16 ซม. ดอก ออกตามปลายกิ่ง ดอกมีขนาดเล็ก กลีบดอกสีเหลืองและมีจุดประสีแดงหรือม่วงแดงอยู่กลางดอก ผล เป็นฝักยาว รูปร่างยาวหรือโค้ง ยาว 3-20 ซม. ฝักอ่อนมีเปลือกสีเขียวอมเทา สีน้ำตาลเกรียม เนื้อในติดกับเปลือก เมื่อแก่ฝักเปลี่ยนเป็นเปลือกแข็งกรอบหักง่าย สีน้ำตาล เนื้อในกลายเป็นสีน้ำตาลหุ้มเมล็ด เนื้อมีรสเปรี้ยว หรือหวาน ซึ่งฝักหนึ่ง จะมีหุ้มเมล็ด 3–12 เมล็ด เมล็ดแก่จะแบนเป็นมัน และมีสีน้ำตาล
ใบของมะขามเป็นใบประกอบแบบขนนก (pinnately compound leaves) ใบย่อยแต่ละใบแยกออกจากก้าน 2 ข้างของแกนกลาง คล้ายขนนก ถ้าปลายสุดของใบจะเป็นใบย่อยเพียงใบเดียวเรียก แบบขนนกคี่ (odd pinnate) เช่น กุหลาบ  อัญชัน  ก้ามปู ถ้าสุดปลายใบมี 2 ใบ เรียกแบบขนนกคู่ (even pinnate) เช่น มะขาม
การปลูกมะขาม นิยมขยายพันธุ์โดยการทาบกิ่ง ติดตาหรือต่อกิ่ง เพราะได้ผลเร็วและลดการกลายพันธุ์ ทำได้โดยเตรียมดินโดยขุดหลุมกว้าง ยาวและลึกด้านละ 60 ซม. ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักคลุกเคล้าดินรองก้นหลุมเอากิ่งพันธุ์ลงปลูก รดน้ำให้ชุ่ม มะขามเมื่อลงดินแล้วจะโตเร็ว ควรใช้ไม้หลักพยุงไว้ให้แน่น และการบำรุงรักษาหลังเริ่มปลูก ควรเอาใจใส่ดายหญ้ารอบต้น และรดน้ำทุกวัน ขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิดแม้แต่ดินเลว เช่นดินลูกรัง เจริญได้ดีในดินร่วนปนดินเหนียว ทนแล้งได้ดี ฤดูปลูกที่เหมาะสม คือต้นฤดูฝน ควรหาเศษหญ้าฟางคลุมโคนจนกว่าต้นจะแข็งแรง ควรฉีดยาป้องกันโรคราแป้งและแมลงพวกหนอนเจาะฝัก ด้วงเจาะเมล็ด ในระยะที่เป็นดอกอยู่

ประโยชน์

              มะขามใช้ทำอาหารได้หลายส่วน ทั้งใบอ่อน ฝักอ่อน ฝักแก่ และเม็ดก็นำมาคั่วรับประทานได้ มะขามเปียกที่ทำจากมะขามฝักแก่เป็นเครื่องปรุงรสเปรี้ยวที่สำคัญในอาหารไทย ทั้งแกงส้ม ต้มส้ม ไข่ลูกเขย น้ำปลาหวาน ยอดและใบมะขามอ่อนนำไปยำหรือใส่ในต้มเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยว และยังใช้ทำขนมได้อีกหลายชนิด เช่น มะขามแช่อิ่ม มะขามแก้ว มะขามคลุก มะขามกวน เป็นต้น
ยอดอ่อนและฝักอ่อนมีวิตามินเอ มาก มะขามเปียกรสเปรี้ยว ทำให้ชุ่มคอ ลดความร้อนของร่างกายได้ดี เนื้อในฝักมะขามที่แก่จัด เรียกว่า "มะขามเปียก" มะขามเปียกอุดมด้วยกรดอินทรีย์ มีคุณสมบัติชำระล้างความสกปรกรูขุมขน คราบไขมันบนผิวหนังได้ดี
แก้อาการท้องผูก ใช้เนื้อฝักแก่หรือมะขามเปียก 10–20 ฝัก (หนักประมาณ 70–150 กรัม) จิ้มกับเกลือรับประทาน หรือใส่เกลือเติมน้ำคั้นดื่ม
แก้อาการท้องเดิน ใช้เปลือกต้น ทั้งสดหรือแห้งประมาณ 1–2 กำมือ (15–30 กรัม) ต้มกับน้ำปูนใสหรือน้ำรับประทาน
ถ่ายพยาธิลำไส้ ใช้เมล็ดคั่วกะเทาะเปลือกเอาออกเนื้อในเมล็ดแช่น้ำเกลือจนนุ่ม รับประทานครั้งละ 20–30 เมล็ด เหมาะสำหรับถ่ายพยาธิไส้เดือน
แก้ไอขับเสมหะ ใช้เนื้อในฝักแก่หรือมะขามเปียกจิ้มเกลือรับประทาน
  


มารู้จักโปรแกรม sketch up 8 กันเถอะ


            ความหมายของ โปรแกรม sketch up
      Google SketchUp เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างแบบจำลอง 3D (Three-Dimensional) ที่มีความง่ายต่อการใช้งาน และเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ในงานออกแบบเชิงสถาปัตยกรรม งานออกแบบภายในและภายนอก การออกแบบกลไกการทำงานของเครื่องจักร เฟอร์นิเจอร์ ภูมิประเทศ ผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงงานออกแบบฉาก อาคาร และสิ่งก่อสร้างในเกม หรือจะเป็นการจัดฉากทำ Story Boards ในงานภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์ก็สามารถทำได้
นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับปลั๊กอิน (Plugin) ต่างๆที่ถูกพัฒนาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ Google SketchUP ให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปลั๊กอินที่ช่วยให้การสร้างรูปทรงต่างๆสามารถทำได้ง่ายขึ้น ไปจนถึงปลั๊กอินที่ช่วยในการจัดแสงเงาให้ดูสมจริงอย่างเช่น V-Ray หรือ Podium เป็นต้น
    ความหมายของการออกแบบ
  การออกแบบ คือกระบวนการสร้างสรรค์ประเภทหนึ่งของมนุษย์มีความสวยงามโดดเด่นโดยใช้องค์ประกอบของทฤษฏีต่างๆและใช้วัสดุนานาชนิดเป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อสนองความต้องการในการดำรงชีวิตประจำวันให้มีความสะดวกสบายขึ้นหรือเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทางกายภาพ หรือเพื่อพัฒนาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้มีคุณภาพสูงขึ้นกว่าเดิม
การออกแบบ หมายถึงการรู้จักวางแผนเป็นขั้นตอน และรู้จักเลือกใช้วัสดุ และวิธีการทำให้สอดคล้องกับลักษณะรูปแบบและคุณสมบัติของวัสดุแต่ละชนิด ตามความคิดสร้างสรรค์
       การออกแบบ หมายถึง การปรับปรุงผลงาน หรือสิ่งต่างๆที่มีอยู่แล้วให้เหมาะสม มีความแปลกใหม่เพิ่มขึ้น เช่น เก้าอี้นั่งที่ใช้มานานๆเราสามารถปรับปรุง ให้เป็นรูปแบบใหม่ สวยงาม แปลกกว่าเดิมแต่ยังคงความสะดวกสบายในการใช้งาน เหมือนได้เดิมหรือดีกว่าเดิม เป็นต้น
       การออกแบบ หมายถึงการรวบรวมหรือการจัดองค์ประกอบทั้งที่เป็น 2 มิติและ3มิติเข้าด้วยกันอย่างมีหลักเกณฑ์โดยนำองค์ประกอบของการออกแบบมาคิดรวมกันและคำนึงถึง ประโยชน์ใช้สอย ความงามอันเป็นคุณลักษณะสำคัญของการออกแบบการออกแบบเป็นศิลปะของมนุษย์ เกิดจากการสร้างค่านิยมทางความงามและสนองคุณประโยชน์ทางกายภาพให้แก่มนุษย์
                 ความหมายของการออกแบบ ผลิตภัณฑ์
การออกแบบผลิตภัณฑ์ [product design] คือการออกแบบสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อนำมาใช้สอยในชีวิตประจำวัน โดยเน้นการผลิตจำนวนมาก ในรูปสินค้า เพื่อให้ผ่านไปยังผู้บริโภค[consumer]ในวงกว้าง โดยที่รูปแบบและคุณภาพของผลิตภัณฑ์จะเป็นปัจจัยสำคัญ ชักจูงผู้บริโภคให้เกิดความกระหายที่จะจ่ายเงินซ้อผลิตภัณฑ์นั้น




           ภาพเครื่องมือของโปรแกรม  sketch up